การพูดต่อประชุมชน

[-HoMe-] [-Thai M.5-] [-Thai M.5_2-] [-PorTFoRiO-] [-WeBBoArD-] [-WeBMaSTeR-]

การพูดต่อประชุมชน  

คือ  การพูดแสดงความรู้  ความคิดความรู้สึก  รวมทั้งข้อเสนอ

แนะต่าง ๆ  ต่อผู้ฟังจำนวนมากในที่ประชุมหรือในที่สาธารณะ

                สิ่งสำคัญที่สุดที่จะต้องคำนึงในการพูดต่อประชุมชน  คือ  สารที่ผู้พูดส่งออกไป  จะต้อง

ไม่มีข้อจำกัดว่ารับฟังได้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น และในการพูดต่อหน้าประชุมชนจะต้องเปิดโอกาส

ให้ผู้ฟังแสดงความเห็นเพิ่มเติมซักถามข้อข้องใจหรือตั้งข้อสังเกตอื่น ๆ เมื่อผู้พูดพูดจบแล้ว

                 ความสำคัญของการพูดต่อประชุมชนในสังคมประชาธิปไตย     การพูดต่อประชุมชนมีความสำคัญมากสรุปได้ดังนี้

                 1.  เป็นวิธีเผยแพร่ความคิดเห็นของบุคคลที่สะดวกรวดเร็วให้ปรากฏแก่สาธารณชน

ทั้งในทางสนับสนุนและคัดค้าน

                  2.  เป็นวิถีทางถ่ายทอดทางวัฒนธรรม  ปลูกฝังคุณธรรม  การเผยแพร่ความรู้ใหม่ ๆ

ไปสู่ประชาชน

                  3.  เป็นวิถีทางทำให้มนุษย์ชี้แนะ  การแก้ปัญหาต่าง ๆ ให้แก่สังคมได้

 ประเภทของการพูดต่อประชุมชน

       แบ่งตามวิธีทำเสนอมี  4  ประเภท  คือ

                1.  การพูดโดยฉับพลัน  คือ  การพูดโดยฉับพลันทันทีไม่รู้ตัวล่วงหน้ามาก่อน  เช่น

ได้รับเชิญให้ขึ้นมาพูดอวยพรในงานมงคลสมรส

                    2.  การพูดโดยอาศัยต้นร่าง  ผู้พูดรู้ตัวล่วงหน้า  ผู้พูดมักนำเค้าโครงเรื่องที่พูดทำ

ให้เกิดความมั่นใจในการพูดเป็นอย่างมาก

                    3.  การพูดโดยวิธีการท่องจำมา  ผู้พูดต้องเตรียมเขียนต้นฉบับแล้วท่องจำเนื้อหา

ทั้งหมดจนขึ้นใจ  การพูดวิธีนี้เสียเวลามาก  และไม่ใคร่เป็นธรรมชาติ

                    4.  การพูดโดยวิธีอ่านจากร่าง  คือ  การอ่านต้นฉบับที่เตรียมไว้เป็นอย่างดี  ส่วน

มากจะใช้ในโอกาสสำคัญ  เช่น  การกล่าวเป็นประชุม  ฯลฯ  เป็นต้น

      การพูดต่อประชุมชนแบ่งตามความมุ่งหมายได้เป็น  4  ประเภท คือ 

        1. การพูดเพื่อให้ความรู้หรือข้อเท็จจริง ผู้พูดมีจุดมุ่งหมายให้ผู้ฟังเข้าใจเรื่องราวต่าง ๆ

ที่เป็นประโยชนเป็นสำคัญอาจใช้วิธีบรรยาย   พรรณนาเล่าเรื่อง  เล่าเหตุการณ์  อธิบาย    ชี้แจง

เสนอรายงาน  เป็นต้น

          2.  การพูดเพื่อโน้มน้าวใจ  เป็นการพูดจูงใจให้ผู้ฟังคล้อยตาม  เช่น  การโฆษณาสินค้า

เป็นต้น

        3.  การพูดเพื่อจรรโลงใจ   เป็นการพูดเพื่อให้เบิกบานแจ่มใสยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น เช่น

การกล่าวคำสดุดี  เป็นต้น

          4.  การพูดเพื่อค้นหาคำตอบ  เป็นการพูดมุ่งให้ผู้ฟังช่วยขบคิดหาทางแก้ปัญหาตามที่ผู้

พูดชี้ให้เห็น  ถือเป็นการพูดที่ค้นหาคำตอบ

      การพูดต่อประชุมชนแบ่งตามเนื้อหาที่พูดได้  3  ประเภท คือ

      1. การพูดเกี่ยวกับนโยบาย  เป็นเรื่องเกี่ยวกับหลักการ  วิธีการที่จะทำต่อไปในอนาคต

เพื่อประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ

          2.  การพูดเกี่ยวกับข้อเท็จจริง  เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วและพิสูจน์ให้เห็นว่าข้อเท็จจริงเป็น

อย่างไร

          3.  การพูดเกี่ยวกับคุณค่าและคุณงามความดี  อาจเป็นเรื่องของบุคคล กลุ่มบุคคล

วัตถุ  หรือการกระทำต่าง ๆ  ที่ยังมีคุณค่าและคุณงามความดีอยู่ในช่วงเวลานั้น

      การพูดต่อประชุมชนแบ่งตามโอกาสได้  3  ประเภท  คือ

        1.  การพูดอย่างเป็นทางการ  มักเป็นการพูดในพิธีการต่าง ๆ  เช่น การกล่าวเปิดประชุม

ทางวิชาการ  เป็นต้น

          2.  การพูดกึ่งทางการ  เป็นการพูดที่ลดความเป็นแบบแผนลง  เช่น การพูดอบรมนักเรียน

ประจำสัปดาห์  เป็นต้น

          3.  การพูดอย่างไม่เป็นทางการ    เป็นการพูดในบรรยากาศที่เป็นกันเอง   เช่น  การพูด

สังสรรค์วันคืนสู่เหย้าของนักเรียนเก่า  เป็นต้น

     การพูดต่อประชุมชนแบ่งตามรูปแบบได้  5  ประเภท  คือ

       1.  การสนทนาหน้าที่ประชุม  มีผู้พูด  2  หรือมากกว่านั้นสนทนาซักถาม  แลกเปลี่ยน

ความรู้ความคิดเห็นต่อหน้าที่ประชุม

           2.  การบรรยาย  เป็นการพูดเกี่ยวกับข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นอาจบรรยายเดี่ยว  หรือ

บรรยายหมู่ก็ได้  ผู้บรรยายเป็นผู้มีความรู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

         

         3.  การอภิปรายเป็นคณะ  เป็นการพูดของคณะบุคคลจำนวนประมาณ  3 - 5 คน

พูดแสดงความรู้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อหน้าผู้ฟังจำนวนมาก

           4.  การซักถามหน้าที่ประชุม  มีการแบ่งผู้พูดเป็น  2  ฝ่าย  ฝ่ายหนึ่งเป็นตัวแทนผู้ฟังอาจมีจำนวน  1  คน  หรือมากกว่านั้น  ทำหน้าที่ซักถามปัญหา  อีกฝ่ายหนึ่งประมาณ  2 - 4 คน

เป็นวิทยากรทำหน้าที่ตอบปัญหาต่าง ๆ

           5.  การโต้วาที  เป็นการพูดโต้แย้งระหว่างบุคคล  2  ฝ่าย  ฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายเสนอญัตติ 

อีกฝ่ายหนึ่งคัดค้านญัตติ  มีผู้ตัดสินชี้ขาดให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายชนะ

การเตรียมตัวพูดต่อประชุมชน

            การเตรียมตัวพูดเป็นอย่างดี  จะช่วยให้ผู้พูดมีความมั่นใจ  กล้าแสดงออก  ลดความประหม่าเก้อเขินได้

         หลักกว้าง ๆ ในการเตรียมตัวผู้พูดต่อหน้าประชุมชนมีดังนี้

           1.  กำหนดจุดมุ่งหมายของการพูด  ต้องกำหนดจุดมุ่งหมายให้ชัดเจนทั้งจุดมุ่งหมาย

ทั่วไปและจุดมุ่งหมายเฉพาะเรื่อง

             2.  วิเคราะห์ผู้ฟัง  ควรวิเคราะห์ผู้ฟังในด้าน  จำนวน  เพศ  วัย  สถานภาพทางสังคม

อาชีพ  ความรู้  ความสนใจ  ตลอดจนทัศนคติที่ผู้ฟังมีต่อเรื่องที่จะพูดหรือตัวผู้พูด

             3.  การกำหนดขอบเขตของเรื่องที่จะพูด  ส่วนประกอบของเรื่องที่จะพูดคือ    การ

กล่าวนำเนื้อเรื่อง  การสรุป  แต่ละส่วนให้เหมาะแก่เวลา

             4.  การรวบรวมเนื้อหาที่จะพูด  อาจทำได้จากการอ่าน  การสัมภาษณ์  ควรจดบันทึก

ข้อความรู้ที่รวบรวมลงในบัตรบันทึกให้เป็นระเบียบ        ควรรู้จักเลือกใช้โสดทัศนูปกรณ์ต่าง ๆ ประกอบการพูดด้วย

             5.  การทำเค้าโครงเรื่องลำดับเรื่องที่จะพูด  จัดเป็นประเด็นที่สำคัญให้ชัดเจนเพื่อการพูดได้เป็นไปตามลำดับเนื้อเรื่องไม่สับสน

           6.  การเตรียมวิธีในภาษา  ใช้คำกะทัดรัด  เข้าใจง่าย  ให้ละเว้นคำหยาบโลน

              7.  การซักซ้อมการพูด  ควรซักซ้อมทั้งวัจนภาษาและอวัจนภาษา  อวัจนภาษาทำให้

การพูดประสบความสำเร็จยิ่งขึ้น  เช่น  ลักษณะท่าทาง  การใช้เสียง  การใช้สายตา  เป็นต้น

สัมฤทธิผลของการพูด

           การพูดต่อประชุมชนจะสัมฤทธิผลได้เมื่อผู้พูดมีคุณสมบัติที่สำคัญดังนี้

                 1.  ผู้พูดต้องมีคุณธรรม

                 2.  มีความรู้ดีและรู้จริงในเรื่องที่พูด

                 3.  ผู้พูดต้องใช้เหตุผลต่าง ๆ มาสนับสนุนการพูดให้มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ

                 4.  รู้จักธรรมชาติของวิสัยของมนุษย์  โดยคำนึงถึงวัยพื้นฐานความรู้

                 5.  รู้จักรวบรวมความคิดให้เป็นระบบได้

                 6.  รู้จักใช้ภาษาให้มีประสิทธิผลทั้งในด้าน  วัจนภาษา  และอวัจนภาษา

การวิเคราะห์และประเมินค่าพฤติกรรมการพูดต่อประชุมชน

           การวิเคราะห์ควรวิเคราะห์ในด้านผู้พูด  สาร  ผู้ฟังและประเมินค่าไปตามหัวข้อที่ได้

วิเคราะห์ไว้แล้วดังนี้

-          ผู้พูดมีจุดมุ่งหมายชัดเจนหรือไม่

-          เตรียมตัวมาดีหรือไม่

-          วิธีการนำเสนอเหมาะกับเนื้อหา  ผู้ฟัง  โอกาสเพียงใด

-          มีคุณธรรมจรรยามารยาทปรารถนาเพียงใด

-          การใช้ภาษาถูกต้องตามแบบแผนหรือไม่

สาร  เนื้อหาของสารเหมาะกับโอกาสหรือไม่  มีประโยชน์เพียงใด  เหมาะกับพื้นฐาน

ความรู้ผู้ฟังหรือไม่  ปริมาณของสารพอดีกับเวลา  และจัดลำดับดีหรือไม่เพียงใด

                 ผู้ฟัง  ผู้ฟังมีปฏิกิริยาตอบสนองความมุ่งหมายและให้ความสนใจผู้พูดมากน้อยเพียง

ใด